เทคโนโลยี หมายถึง สิ่งที่มนุษย์พัฒนาขึ้น เพื่อช่วยในการทำงานหรือแก้ปัญหาต่าง ๆ เช่น
อุปกรณ์ เครื่องมือ เครื่องจักร วัสดุ หรือ แม้กระทั่งที่ไม่ได้เป็นสิ่งของที่จับต้องได้
ตัวอย่างเช่น : กระบวนการต่าง ๆ เทคโนโลยี เป็นการประยุกต์ นำเอาความรู้ทางวิทยาศาสตร์มาใช้ และก่อให้เกิดประโยชน์ ในทางปฏิบัติ แก่มวลมนุษย์กล่าวคือเทคโนโลยีเป็นการนำเอาความรู้ ทางวิทยาศาสตร์มาใช้ในการประดิษฐ์สิ่งของต่าง ๆให้เกิดประโยชน์สูงสุด
ตัวอย่างเช่น : กระบวนการต่าง ๆ เทคโนโลยี เป็นการประยุกต์ นำเอาความรู้ทางวิทยาศาสตร์มาใช้ และก่อให้เกิดประโยชน์ ในทางปฏิบัติ แก่มวลมนุษย์กล่าวคือเทคโนโลยีเป็นการนำเอาความรู้ ทางวิทยาศาสตร์มาใช้ในการประดิษฐ์สิ่งของต่าง ๆให้เกิดประโยชน์สูงสุด
สารสนเทศ หมายถึง ข้อมูลที่เป็นประโยชน์ต่อการดำเนินชีวิตของมนุษย์ สารสนเทศ
เกิดจากการนำข้อมูล ผ่านระบบการประมวลผล คำนวณ วิเคราะห์และแปลความหมายเป็นข้อความ
อย่างเป็นระบบตามหลักวิชาการ ที่สามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้
ตัวอย่างเช่น : ระบบสื่อสารผ่านดาวเทียมหรือสัญญาณระบบต่างๆ
การสร้างเครือข่ายคอมพิวเตอร์ระบบดาวเทียม การจองตั๋วเครื่องบิน การกดเงินจาก ATM เป็นต้น
สารสนเทศ
|
เทคโนโลยีสารสนเทศ หรือ ไอที ( Information technology หรือ IT) หมายถึง เทคโนโลยีสำหรับการประมวลผลสารสนเทศซึ่งครอบคลุมถึงการรับ-ส่ง
การแปลง การจัดเก็บ การประมวลผล และการค้นคืนสารสนเทศ ในการประยุกต์ การบริการ
และพื้นฐานทางเทคโนโลยี สามารถแบ่งกลุ่มย่อยเป็น 3 กลุ่ม ได้แก่ คอมพิวเตอร์ การสื่อสาร และข้อมูลแบบมัลติมีเดีย ซึ่งในแต่ละกลุ่มนี้ยังแบ่งเป็นกลุ่มย่อยๆ
ได้อีกมากมาย องค์ประกอบทั้ง 3 ส่วนนี้ ยังต้องอาศัยการทำงานร่วมกัน
ตัวอย่างเช่น เซิร์ฟเวอร์ (คอมพิวเตอร์) เป็นองค์ประกอบสำคัญของระบบเครือข่าย (การสื่อสาร) โดยมีการส่งข้อมูลต่างๆ ไปยังเครื่องลูก (ข้อมูลแบบมัลติมีเดีย)
ข้อมูล (Data) หรือ ข้อมูลดิบ หมายถึง ข้อเท็จจริง หรือเหตุการณ์ต่าง ๆ ที่เกิดขึ้น
อาจจะเป็นตัวเลข ตัวอักษร หรือ สัญลักษณ์ก็ได้
ข้อมูลที่ดีจะต้องมีความถูกต้องแม่นยำ และเป็นปัจจุบัน
ตัวอย่างเช่น : ข้อมูลที่เห็นได้เป็นประจำ เช่น ราคาสินค้า เกรดเฉลี่ยที่ได้รับ รูปภาพต่างๆ ที่ปรากฏในเว็ปไวด์ รายงานบันทึกต่างๆ ฯลฯ
ตัวอย่างเช่น : ข้อมูลที่เห็นได้เป็นประจำ เช่น ราคาสินค้า เกรดเฉลี่ยที่ได้รับ รูปภาพต่างๆ ที่ปรากฏในเว็ปไวด์ รายงานบันทึกต่างๆ ฯลฯ
ข้อมูลที่ปรากฎในเว็ปไวด์
ฐานความรู้ (Knowledge base ย่อว่า KB หรือ kb) เป็นฐานข้อมูลชนิดพิเศษสำหรับการจัดการความรู้ ฐานความรู้เป็นแหล่งเก็บสารสนเทศที่มีวิธีการรวบรวม
จัดการ แบ่งปัน สืบค้น และนำสารสนเทศมาใช้ให้เป็นประโยชน์
มันอาจเป็นฐานความรู้ที่เครื่องอ่านได้หรือตั้งใจให้มนุษย์ใช้อย่างใดอย่างหนึ่ง
ตัวอย่างเช่น เหตการณ์ในชีวิตประจำวัน ที่ใช้อยู่ประจำก็คือมีการใช้อุปกรณ์เทคโนโลยีในการสื่อสารเช่นโทรศัพท์มือถือสมาทต์โฟน (Smart Phone) ซึ่งมีคุณสมบัติหลายอย่างในเครื่องเดียว
เช่นโทรศัพท์ บันทึก ข้อมูล เสียง ถ่ายรูป ส่งข้อความ อินเทอร์เน็ตฯ
ในขณะที่ทำงานประจำวันก็ได้ใช้ อุปกรณ์คอมพิวเตอร์ (PC) ในการรับข้อมูลข่าวสาร ติดต่อประสานงานกันทาง อีเมลล์
ไม่ว่าจะเป็นภายในบริษัท ระหว่างแผนก หรือ ภายนอกบริษัท ลูกค้า สั่งซื้อสินค้า
วัสดุต่างๆ ทั้งในประเทศ ต่างประเทศ ฯ ซึ่งได้รับประโยชน์อย่างมากในการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ
สะดวก รวดเร็ว ประหยัดเวลา ประหยัดแรงงาน เก็บรักษาบันทึกข้อมูลไว้ใช้ อ้างอิง
วิเคราะห์ ได้ตลอด เป็นต้น
2. โครงสร้างสารสนเทศมีอะไรบ้าง
จงอธิบายพร้อมยกตัวอย่าง
โครงสร้างสารสนเทศ
โครงสร้างสารสนเทศ
โครงสร้างสารสนเทศ
ระดับของผู้ใช้สารสนเทศ
ระดับล่าง เป็นการใช้คอมพิวเตอร์ทำงานประมวลผลข้อมูล ซึ่งเรียกว่าการประมวลผลรายการ (Transaction Processing System:
TPS)
ตัวอย่างเช่น: การรับ-จ่ายบิล ระบบควบคุมสินค้าคง คลัง ระบบการรับ-จ่าย สินค้า การบันทึกยอดขายประจำวัน
ซึ่งใช้งานในระดับผู้ปฏิบัติการ ระบบนี้
เป็นระบบสารสนเทศลำดับแรกที่ได้รับการพัฒนาให้ใช้กับเครื่องคอมพิวเตอร์
ระดับที่สอง เป็นการใช้คอมพิวเตอร์จัดทำสารสนเทศ
เพื่อใช้ในการวางแผนการตัดสินใจและการควบคุมที่เกี่ยวเนื่องกับงานประจำวัน
ซึ่งเรียกว่า งานควบคุมการดำเนินงาน (Operation Control)
ตัวอย่างเช่น: การใช้คอมพิวเตอร์ในการรวบรวมข้อมูลประมวลผลว่าในแต่ละเดือนต้องวางแผนในการสั่งผลิตสินค้าเท่าไหร่
ถึงจะพอกับความต้องการของลูกค้าหรือจะผลิต Stock ไว้เท่าไหร่ถึงจะเหมาะสม
ระดับที่สาม เป็นการใช้คอมพิวเตอร์จัดทำสารสนเทศสำหรับผู้บริหารจัดการระดับกลางใช้ในการจัดการและวางแผนระยะสั้นตั้งแต่
6 เดือน ถึง 1 ปี ซึ่งเรียกว่า งานควบคุมการจัดการ (Management
Control)
ตัวอย่างเช่น: การประเมินผลการทำงานประจำปีของพนักงาน
ระดับที่สี่ เป็นการใช้คอมพิวเตอร์จัดทำสารสนเทศสำหรับผู้บริหารจัดการระดับสูง
สำหรับใช้ในงานวางแผนระยะยาว ซึ่งเรียกว่าการวางแผนกลยุทธ์ (Strategic
Planning)
ตัวอย่างเช่น
: การประเมินผลยอดขายในแต่ละปี
3. วิวัฒนาการของเทคโนโลยีสารสนเทศมีอะไรบ้าง จงอธิบายพร้อมยกตัวอย่าง
วิวัฒนาการของเทคโนโลยีสารสนเทศ
ยุคการประมวลผลข้อมูล (Data Processing era) เป็นยุคแรกๆ ของการใช้ระบบคอมพิวเตอร์ วัตถุประสงค์ช่วงนั้น คือเพื่อการคำนวณและการประมวลผลข้อมูลประจำวันเพื่อลดค่าใช้จ่ายและบุคลาการลง
ตัวอย่างเช่น : เช่น ระบบการฝากถอนเงินโดยเครื่อง ATM เป็นต้น การทำงานในระบบนี้เรียกอีกอย่างว่าระบบออนไลน์ (On-line system) ซึ่งระบบOn-line นี้ยังมีประเภทย่อยๆ อีก 2 ประเภท คือ
2.1 ระบบการประมวลผลโดยใช้เวลาจริง (Real-time processing) เป็นระบบที่ต้องการความรวดเร็วในการตอบสนองข้อมูลสูงมาก (ข้อมูลที่ตอบสนองมาต้องถูกต้อง แน่นอน แม่นยำ ทันต่อเวลา)
2.2 ระบบการประมวลผลแบบเวลา (Timesharing processing) เป็นระบบที่ให้ผู้ใช้หลายๆ คนสามารถทำงานพร้อมๆ กันได้ โดยการแบ่งเวลาหน่วยประมวลผลกันใช้งาน โดยการผ่านเครื่องเทอร์มินัล ซึ่งเป็นสถานีที่ใช้ในการติดต่อระหว่างผู้ใช้กับคอมพิวเตอร์ และสามารถจัดสรรหน่วยความจำของระบบให้ผู้ใช้ได้ตามความต้องการใช้งาน
ข้อดี
1. สามารถตรวจสอบข้อมูลที่ป้อนทันทีทันใด
2. สามารถแก้ไขข้อผิดพลาดได้ทันที
3. ได้รับผลลัพธ์ที่ทันสมัย
ข้อเสีย
1. โอกาสผิดพลาดมีมากกว่าวิธีแบบชุดเนื่องจากตรวจทานที่หน้าจอภาพอาจจะทำให้ผู้ตรวจตาลาย
2. การแก้ไขข้อผิดพลาดทำได้ยากกว่า
2.1 ระบบการประมวลผลโดยใช้เวลาจริง (Real-time processing) เป็นระบบที่ต้องการความรวดเร็วในการตอบสนองข้อมูลสูงมาก (ข้อมูลที่ตอบสนองมาต้องถูกต้อง แน่นอน แม่นยำ ทันต่อเวลา)
2.2 ระบบการประมวลผลแบบเวลา (Timesharing processing) เป็นระบบที่ให้ผู้ใช้หลายๆ คนสามารถทำงานพร้อมๆ กันได้ โดยการแบ่งเวลาหน่วยประมวลผลกันใช้งาน โดยการผ่านเครื่องเทอร์มินัล ซึ่งเป็นสถานีที่ใช้ในการติดต่อระหว่างผู้ใช้กับคอมพิวเตอร์ และสามารถจัดสรรหน่วยความจำ
1. สามารถตรวจสอบข้อมูลที่ป้อนทันทีทันใด
2. สามารถแก้ไขข้อผิดพลาดได้ทันที
3. ได้รับผลลัพธ์ที่ทันสมัย
ข้อเสีย
1. โอกาสผิดพลาดมีมากกว่าวิธีแบบชุดเนื่องจากตรวจทานที่หน้าจอภาพอาจจะทำให้ผู้ตรวจตาลาย
2. การแก้ไขข้อผิดพลาดทำได้ยากกว่า
ระบบสารสนเทศเพื่อการจัดการ (Management Information System: MIS) เป็นยุคที่มีการนำระบบคอมพิวเตอร์เข้ามาช่วยในงานด้านการตัดสินใจ ดำนเนิการควบคุมติดตามผล ตลอดจนวิเคราะห์งานของผู้บริหาร
2. สามารถแก้ไขข้อผิดพลาดได้ทันที
3. ได้รับผลลัพธ์ที่ทันสมัย
ข้อเสีย
1. โอกาสผิดพลาดมีมากกว่าวิธีแบบชุดเนื่องจากตรวจทานที่หน้าจอภาพอาจจะทำให้ผู้ตรวจตาลาย
2. การแก้ไขข้อผิดพลาดทำได้ยากกว่า
ระบบสารสนเทศเพื่อการจัดการ (Management Information System: MIS) เป็นยุคที่มีการนำระบบคอมพิวเตอร์เข้ามาช่วยในงานด้านการตัดสินใจ ดำนเนิการควบคุมติดตามผล ตลอดจนวิเคราะห์งานของผู้บริหาร
ตัวอย่างเช่น:
การใช้ซอฟแวร์ช่วยในการตัดสินใจคุณภาพของสินค้า
โดยการป้อนข้อมูลผลการตรวจสอบ
ระบบจัดการทรัพยาการสารสนเทศ (Information Resource management System: IRMS) เป็นการเรียกใช้สารสนเทศ เพื่อที่จะช่วยในการตัดสินใจในการนำองค์การหรือหน่วยงานไปสู่เป้าหมายอันเป็นความสำเร็จ
ยุคเทคโนโลยีสารสนเทศ (Information Technology era) ในปัจจบันเทคโนโลยีมีความเจริญอย่างรวดเร็ว ทำให้มีทางเลือกและเกิดรูปแบบใหม่ๆ ของสินค้าและบริการ รวมเรียกว่า เป็นการใช้เทคโนโลยีคอมพิวเตอร์และเทคโนโลยีคมนาคม เป็นเครื่องมือช่วยในการจัดทำระบบสารสนเทศ โดยมุ่งเน้นของการให้บริการสารสนเทศ
ระบบจัดการทรัพยาการสารสนเทศ (Information Resource management System: IRMS) เป็นการเรียกใช้สารสนเทศ เพื่อที่จะช่วยในการตัดสินใจในการนำองค์การหรือหน่วยงานไปสู่เป้าหมายอันเป็นความสำเร็จ
ยุคเทคโนโลยีสารสนเทศ (Information Technology era) ในปัจจบันเทคโนโลยีมีความเจริญอย่างรวดเร็ว ทำให้มีทางเลือกและเกิดรูปแบบใหม่ๆ ของสินค้าและบริการ รวมเรียกว่า เป็นการใช้เทคโนโลยีคอมพิวเตอร์และเทคโนโลยีคมนาคม เป็นเครื่องมือช่วยในการจัดทำระบบสารสนเทศ โดยมุ่งเน้นของการให้บริการสารสนเทศ
ตัวอย่างเช่น:
การทำงานระบบออนไลน์
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น